วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2555

โด้จัดให้ ! ซัดต่างดาวร่วงคาบ้าน 2-1

ผลบอล บาร์เซโลน่า 1 : 2 เรอัล มาดริด



เรอัล มาดริดในยุคของโจเซ่ มูรินโญ่ปลดล็อกเอาชนะบาร์เซโลน่าในเวลาปรกติได้เสียทีเมื่อเช็คบิลด้วยสกอร์ 2-1 จากประตูชัยของคริสติอาโน่ โรนัลโด้จนมีแต้มหนีห่าง 7 คะแนนเหลือแข่งอีกทีมละ 4 นัดนั้นหมายความว่า"ราชันชุดขาว"ต้องการซิวชัยอีกเพียง 2 เกมก็จะคว้าแชมป์ลาลีกาไปครองทันที ขณะที่"อาซูลกราน่า"ต้องปราชัยในถิ่นคัมป์นูเป็นครั้งแรกในรอบ 55 เกม

ลาลีกา

วันเสาร์ที่ 21 เมษายน 2555




สนาม : คัมป์นู

ประตู : 0-1 ซามี่ เคห์ดิร่า น.16, 1-1 อเล็กซิส ซานเชซ น.70, 1-2 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ น.73

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บาร์เซโลน่า :
บิคตอร์ บัลเดส, ดาเนียล อัลเวส, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ , คาร์เลส ปูโญล, อาเดรียโน่ กอร์เรอา (เปโดร โรดริเกวซ น.74), เซร์กิโอ บุสเก็ตส์ , ชาบี เอร์นานเดซ (อเล็กซิส ซานเชซ น.69 ), ธิอาโก้ อัลคันทาร่า, อันเดรส อิเนียสต้า, ลิโอเนล เมสซี่, คริสเตียน เตโญ่ (เชสก์ ฟาเบรกาส น.81)

สำรองไม่ได้ใช้ : โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้, เคราร์ด ปิเก้, มาร์ติน มอนโตญ่า, เซย์ดู เกอิต้า

เทรนเนอร์ : โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า

เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซิยาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์กิโอ รามอส, เปเป้ , ฟาบิโอ โคเอนเทรา, ซามี เคห์ดิร่า , ชาบี อลอนโซ่ , อังเกล ดิ มาเรีย (เอสเตบัน กราเนโร่ น.73 ), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , เมซุต โอซิล   (โฆเซ่ มาเรีย กาเญฆ่อน น.89), คาริม เบนเซม่า (กอนซาโล่ อิกวาอิน น.90+3)

สำรองไม่ได้ใช้ : อันโตนิโอ อาดาน, ราอูล อัลบิโอล, มาร์เซโล่, ริคาร์โด้ กาก้า

เทรนเนอร์ : โจเซ่ มูรินโญ่
  


คลิปไฮไลท์ ลาลีกา บาร์เซโลน่า 1-2 เรอัล มาดริด


เป๊ป กวาร์ดิโอล่าซูเปอร์โค้ชบาร์เซโลนาถอดอเล็กซิส ซานเชซไปนั่งสำรองหลังเจ็บขามาจากเกมกลางสัปดาห์ แล้วส่งคริสเตียน เตโญ่เล่นสามประสานร่วมกับอันเดรส อิเนียสต้าและลิโอเนล เมสซี่ ขณะที่แดนกลางเลือกใช้ธิอาโก้ อัลคันทาร่าก่อนเชสก์ ฟาเบรกาส

โจเซ่ มูรินโญ่กุนซือสเปเชี่ยล วันทีมเรอัล มาดริดให้ฟาบิโอ โคเอนเทราที่พลาดในเกมล่าสุดลงตัวจริงต่อไปแถมได้ชาบี้ อลอนโซ่พ้นโทษแบนลงคุมจังหวะ ส่วนอังเคล ดิ มาเรียปั้นเกมรุกเคียงข้างเมซุต โอซิลและคริสติอาโน่ โรนัลโด้หน้าเป้าวางคาริม เบนเซม่า

ทั้งนี้"อาซูลกราน่า"กวาดชัยในลาลีกา 11 เกมติดต่อกันและไม่แพ้"เอล กลาซิโก้"เลยตลอด 7 เกมที่ผ่านมาทว่าฟอร์มหลังในลีกของ"โลส บลังโกส"ก็เยี่ยมไม่แพ้กันเมื่อไร้พ่าย 18 นัดรวด

ครึ่งแรก

โรนัลโด้โขกทักอย่างเสียว
เปิดฉากมาเป็นเรอัล มาดริดที่บุกเข้าใส่บาร์เซโลน่าแล้วก็มีโอกาสลุ้นสกอร์ตั้งแต่นาที 4 เมื่อโอซิลครอสลูกเตะมุมฝั่งซ้ายเข้ามาที่เสาแรกให้โรนัลโด้เทคตัวโขกบอลเกือบจะเสียบคานอยู่แล้วแต่บัลเดสบินปัดออกหลังได้ทัน

อัลเวสฉกบอลไปจัดเจอคาซิญาสขวาง
แต่นาทีถัดมาเปเป้ก็ไปจ่ายบอลพลาดถูกอัลเวสฉกไปแต่ดันแตะยาวเกินจนทะลักเข้าเขตโทษเสร็จคาซิญาสที่วิ่งจากเส้นออกมาล้มตัวบล็อกได้ทัน หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็เปิดเกมบุกแลกกันแต่โอกาสจบสกอร์ไม่จะแจ้งนัก

อัลเวสกระหน่ำตุงแต่ล้ำหน้า
นาที 13 อิเนียสต้าแทงบอลทะลุช่องให้เตโญ่หลุดไปทางซ้ายของเขตโทษก่อนล็อคตัดเข้าในเพื่อหนีตัวประกบมาซัดติดเซฟคาซิญาสกระดอนเข้าทางอัลเวสยิงสวนตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปตั้งแต่แรกแล้ว

แนวรับไม่เคลียร์!เคห์ดิร่าโผล่ยิงเฉย
สามนาทีถัดมากลายเป็น"ราชันชุดขาว"ขึ้นนำ 1-0 เมื่อดิ มาเรียเปิดเตะมุมฝั่งขวามาเสาไกลให้เปเป้โหม่งไปติดเซฟบัลเดสแต่บอลไม่ไปไหนแถมปูโญลที่อยู่ใกล้บอลก็เคลียร์ทิ้งไม่ทันเจอเคห์ดิร่าจิ้มจ่อๆเข้าไปตุงตาข่าย

โรนัลโด้สอดซัดหลุดเสา
เท่านั้นไม่พอเมื่อนาที 21 เบนเซม่าพาบอลลุยไปทางด้านซ้ายของเขตโทษก่อนรอจังหวะจนโรนัลโด้วิ่งสอดทะลุขี้นมาแล้วจ่ายให้ปีกโปรตุเกสรับไปกระทุ้งหนีมือบัลเดสผ่านหน้าประตูออกเสาไกล

ชาบีได้ล่อเป้ากดแฉลบออก
นาที 27 บาร์เซโลน่ากลับมาตั้งหลักได้ก่อนที่เมสซี่กระชากบอลแหวกแนวรับเรอัล มาดริดที่หน้าเขตโทษมาคิลเลอร์พาสให้ชาบีหลุดเข้าไปล่อเป้าคาซิญาสแล้วยิงแฉลบสีข้างถากเสาซ้ายออกหลังประตู

บาร์ซ่าขึงเกมให้ธิอาโก้ส่องไกล
เกมหลังจากนั้นเป็นฝ่าย"อาซูลกราน่า"ที่ครองเกมหาช่องบุกเข้าใส่ผู้มาเยือนจนนาที 37 เมสซี่ก็เลี้ยงบอลมาปล่อยให้อิเนียสต้าเคาะต่อไปยังอัลคันทาร่าได้วิ่งเข้าหวดจากระยะร่วม 20 หลาเฉี่ยวเสาซ้ายออกไปอีก

จบครึ่งแรกเรอัล มาดริดบุกมานำบาร์เซโลน่า 1-0 โดยลูกที่เคห์ดิร่าทำได้นั้นถือเป็นประตูที่ 108 ในซีซั่นของ"ราชันชุดขาว"อันเป็นสถิติสูงสุดที่พวกเขาเคยทำมาแต่มันคงสำคัญมากกว่าหากเป็นประตูสู่แชมป์ในปีนี้

ครึ่งหลัง

เตโญ่สอดซัลโวข้ามคาน
กลับมาเล่นครึ่งหลังยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวจากทั้งสองฝ่ายทว่าในนาที 54 บาร์เซโลน่ามีโอกาสตีเสมอเมื่ออัลคันทาร่าลากบอลมาหน้าเขตโทษก่อนแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษด้านซ้ายให้เตโญ่หลุดไปกดข้ามคาน

เกมชักหนักขึ้นแล้ว
เกมหลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายเริ่มเข้าบอลกันหนักขึ้นแต่ยังไม่มีจังหวะฮึดฮัดอะไรให้เสียเวลาชมบอลและในนาที 59 เมสซี่กระชากบอลมาหน้าเขตโทษจนได้จังหวะส่องไกลทว่ายังไปติดบล็อกของเปเป้แบบเต็มเปา

ชาบีลองส่องไกลหลุดกรอบ
นาที 68 อัลคันทาร่าฝากบอลมาให้ชาบีแล้วตัวเองวิ่งทำทางเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่สุดท้ายมิดฟิลด์จอมเก๋าเลือกหาช่องยิงเองจากระยะ 20 หลาถากเสาไปอีกก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกให้อเล็กซิสลงมาลุยแทน

โจ๊กเกอร์อเล็กซิสลงมายิง
แล้วการปรับหมากของเป๊ปก็เป็นผลเมื่อจังหวะโต้กลับอิเนียสต้าไขว้บอลมาให้เตโญ่เอียงตัวยิงทางฝั่งซ้ายไปโดนคาซิญาสเซฟออกมาเข้าทางอาเดรียโน่ได้ซัดสวนกลับไปแฉลบกองหลังให้อเล็กซิสกดหนแรกติดบล็อกคาซิญาสก่อนซ้ำอีกทีซุกก้นตาข่ายให้ทีมตีเสมอเป็น 1-1 ท่ามกลางบรรยากาศสนามแทบแตกในคัมป์นู

โรนัลโด้เอาคืนกดพาราชันนำ
แต่พอนาที 73 "ราชันชุดขาว"ก็ขึ้นนำอีกครั้งเมื่อใช้จังหวะสวนกลับเล่นงานเช่นกันโดยที่บอลไปอยู่ที่เท้าโอซิลทางด้านขวาก่อนจ่ายบอลยาวให้โรนัลโด้หลุดไปยึกหลอกบัลเดสแล้วซัดเข้าประตูที่ว่างเปล่าให้ทีมนำ 2-1

จบเกมเรอัล มาดริดในยุคของโจเซ่ มูรินโญ่ปลดแอกเอาชนะบาร์เซโลน่าในเวลาปรกติได้เสียทีเมื่อบุกพิชิตถึงคัมป์นู 2-1 ทำแต้มหนีห่าง 7 คะแนนเหลือแข่งอีกทีมละ 4 นัดนั้นหมายความว่า"ราชันชุดขาว"ต้องการซิวชัยอีกเพียง 2 เกมก็จะคว้าแชมป์ลาลีกาไปครอง ขณะที่"อาซูลกราน่า"ต้องปราชัยในบ้านเป็นครั้งแรกในรอบ 55 เกม



 

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 
 
 


Tags : วิเคราะห์บอล, ผลบอล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น